นิยามตลาด
“ตลาด” หมายความว่า ตลาดที่เกี่ยวเนื่องในสินค้าหรือบริการชนิดเดียวกันหรือที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ โดยให้พิจารณาด้านคุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือบริการ และด้านพื้นที่ในการจําหน่ายสินค้าหรือให้บริการ
นิยามผู้ประกอบธุรกิจ
“ผู้ประกอบธุรกิจ” หมายความว่า ผู้จําหน่าย ผู้ผลิตเพื่อจําหน่าย ผู้สั่งหรือนําเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจําหน่าย ผู้ซื้อเพื่อผลิตหรือจําหน่ายต่อซึ่งสินค้า หรือผู้ให้บริการในธุรกิจ
การรวมธุรกิจคืออะไร
การรวมกันของผู้ประกอบธุรกิจ ในลักษณะต่าง ๆ เช่น
1.1 ผู้ผลิตรวมกับผู้ผลิต
1.2 ผู้จำหน่ายรวมกับผู้จำหน่าย
1.3 ผู้ผลิตรวมกับผู้จำหน่าย
1.4 ผู้บริการรวมกับผู้บริการ
การเข้าซื้อสินทรัพย์
2.1 เข้าซื้อสินทรัพย์ของผู้ประกอบธุรกิจอื่น
2.2 ร้อยละสิบห้าขึ้นไปของมูลค่าทรัพย์สินในรอบปีบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจอื่นที่ถูกซื้อ
2.3 เพื่อควบคุมนโยบายการบริหารธุรกิจ การอำนวยการ หรือการจัดการ
2.4 มูลค่าทรัพย์สินจะพิจารณาจากมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ตกลงซื้อหรือเข้าซื้อ
การเข้าซื้อหุ้น
3.1 การเข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือหลักทรัพย์อื่นที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิ เป็นหุ้นได้ ณ สิ้นวันใดวันหนึ่ง เพิ่มขึ้นถึงหรือเกินกว่าร้อยละยี่สิบห้าขึ้นไปของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ประกอบธุรกิจอื่น ที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
3.2 การเข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ณ สิ้นวันใดวันหนึ่ง เพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบขึ้นไปของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ประกอบธุรกิจอื่น
3.3 การนับหุ้น
– กรณีผู้เข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นเป็นบุคคลธรรมดาให้นับรวมการเข้าซื้อหรือได้มาโดยคู่สมรสด้วย
– กรณีผู้เข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นเป็นนิติบุคคล
– นับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ถือหุ้นในนิติบุคคลผู้ซื้อเกินร้อยละสามสิบของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด
– นับผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์ทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย
ธุรกิจใดบ้างที่ต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจ
นับรวมยอดเงินขายของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย
นับรวมยอดเงินขายของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย
ไม่ผูกขาด และ เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด
ยกเว้น การรวมธุรกิจเพื่อปรับโครงสร้างภายในของผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการ โดยไม่ต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจ
การผูกขาด หมายความว่า การมีผู้ประกอบธุรกิจรายเดียวในตลาดใดตลาดหนึ่ง ซึ่งมีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าและปริมาณสินค้า หรือบริการของตนได้อย่างอิสระ และมียอดเงินขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
นิยามของผู้มีอำนาจเหนือตลลาด
การแจ้งผลการรวมธุรกิจทำอย่างไร
ประกอบธุรกิจต้องยื่นเอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งการรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่รวมธุรกิจ ณ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือจัดส่งทางไปรษณีย์เป็นจดหมายลงทะเบียน
เอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งการรวมธุรกิจ
สำเนาเอกสารที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากรณีการควบกิจการ
สำเนาเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กรณีซื้อหุ้นตามคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
สำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์ เช่น สัญญาซื้อขาย เอกสารการประเมินราคา
รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารหรือผู้ถือหุ้นครั้งที่มีมติให้รวมธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายทีรวมธุรกิจหรือเอกสารหลักฐานที่แสดงความประสงค์จะรวมธุรกิจ
รายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรวมธุรกิจ
รายงานการประชุมประจำปีและงบการเงินปีล่าสุดที่ผู้สอบบัญชีให้การรับรองแล้วของผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายที่รวมธุรกิจย้อนหลัง 3 ปี
สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายที่รวมธุรกิจทั้งก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
หนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน (ถ้ามี)
หมายเหตุ ให้ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลลงนามพร้อมประทับตราสำคัญของนิติบุคคล (ถ้ามี) ในเอกสารทุกหน้า
ธุรกิจใดบ้างที่ต้องขออนุญาตรวมธุรกิจ
มียอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งหรือรวมกันตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป
นับรวมยอดเงินขายของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย
อาจก่อให้เกิดการผูกขาด หรือ เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด
การรวมธุรกิจที่ยอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งหรือของผู้ประกอบธุรกิจที่จะรวมธุรกิจในตลาดใดตลาดหนึ่งรวมกันตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป และอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด
การผูกขาด หมายความว่า การมีผู้ประกอบธุรกิจรายเดียวในตลาดใดตลาดหนึ่งซึ่งมีอำนาจในการกำหนดราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการของตนได้อย่างเป็นอิสระ และมียอดเงินขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
นิยามของผู้มีอำนาจเหนือตลลาด
การขออนุญาตรวมธุรกิจทำอย่างไร
การยื่นขออนุญาตรวมธุรกิจ
ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่จะกระทำการรวมธุรกิจอันอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบการที่มีอำนาจเหนือตลาด ยื่นคำขออนุญาตพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบ โดยสามารถยื่นได้ด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน ณ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า โดยจะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
การรับคำขออนุญาตรวมธุรกิจ
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าจะมอบหลักฐานซึ่งระบุเลขที่การรับคำร้องขอเพื่อให้ผู้ยื่นคำขอใช้ติดตามการดำเนินการต่อไป ภายหลังผู้ประกอบธุรกิจที่จะรวมธุรกิจได้ยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนการพิจารณาอนุญาตการรวมธุรกิจ
เลขาธิการเสนอคำขออนุญาตรวมธุรกิจต่อประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำขออนุญาตเพื่อเสนอคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าพิจารณาต่อไป
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าอาจขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจที่จะขออนุญาตรวมธุรกิจโดยอาจทำเป็นหนังสือเรียกข้อมูลหรือเชิญผู้ขออนุญาตมาชี้แจงก็ได้
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าอาจมีหนังสือเชิญบุคคลมาให้ความเห็นและข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาก็ได้
ให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับนับแต่วันที่ได้รับคำขอ และในกรณีมีความจำเป็นที่ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสิบห้าวัน โดยบันทึกเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องขยายเวลาไว้ในการพิจารณาวินิจฉัยด้วย
ประเด็นพิจารณาอนุญาติการรวมธุรกิจของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
ความจำเป็นตามควรทางธุรกิจ
ประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
การไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง
การไม่กระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม
กรณีฝ่าฝืนการอนุญาตให้รวมธุรกิจ
ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติดำเนินการตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ให้คณะกรรมการมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งอนุญาตทั้งหมดหรือบางส่วน โดยจะกำหนดระยะเวลาให้ปฎิบัติไว้ด้วยก็ได้
เอกสารหลักฐานประกอบการขออนุญาตรวมธุรกิจ
1. แผนการรวมธุรกิจและระยะเวลาดำเนินการ
2. รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประสงค์รวมธุรกิจและผู้ถูกรวมธุรกิจ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย โครงสร้างผู้ถือหุ้น สิทธิออกเสียง ยอดขาย ส่วนแบ่งตลาด
3. ผลการศึกษาและการวิเคราะห์การรวมธุรกิจ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้
1. การวิเคราะห์โครงสร้างผู้ถือหุ้น อำนาจควบคุมของผู้ประสงค์จะทำการรวมธุรกิจเพื่อพิจารณาความสัมพันธ์ทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการก่อนและหลังรวมธุรกิจ
2. การวิเคราะห์โครงสร้างตลาดสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้ประสงค์รวมธุรกิจเพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นภายหลังรวมธุรกิจ อย่างน้อยต้องประกอบด้วยข้อมูลผลการวิเคราะห์ ดังนี้
1. การวิเคราะห์โครงสร้างตลาดก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
2. การกำหนดขอบเขตตลาด
3. ส่วนแบ่งตลาดของผู้ประสงค์รวมธุรกิจทั้งก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
4. ยอดเงินขายของผู้ประสงค์รวมธุรกิจทั้งก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
5. การประเมินผลกระทบต่อการแข่งขันภายหลังการรวมธุรกิจ ในประเด็นดังต่อไปนี้
1. การกระจุกตัวในตลาด
2. การเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่และการขยายการผลิตของคู่แข่งในตลาด (Entry and Expansion) โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น กฎหมายและระเบียบของรัฐ ต้นทุนการขนส่งการเข้าถึงสิทธิบัตรในเทคโนโลยีเดิม การเข้าถึงวัตถุดิบหรือสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ เป็นต้น
3. ผลกระทบต่อการแข่งขันจากผู้ประกอบธุรกิจที่รวมธุรกิจ (Non-Coordinated Effect) หมายถึง ผลกระทบที่เกิดจากผู้ประกอบธุรกิจที่รวมธุรกิจ (Merged Entity) สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นจากการขึ้นราคาหรือลดคุณภาพของสินค้าเนื่องจากการแข่งขันที่ลดลง
4. ผลกระทบต่อการแข่งขันที่เกิดจากการร่วมมือกัน (Coordinated Effect) หมายถึง ผลกระทบที่เกิดจากการรวมธุรกิจซึ่งอาจเพิ่มความเป็นไปได้ที่ผู้ประกอบธุรกิจจะร่วมมือกันขึ้นราคาสินค้าภายหลังการรวมธุรกิจ
5. ผลกระทบต่อประโยชน์โดยรวมทางเศรษฐกิจและผู้บริโภค
6. ผลกระทบด้านอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด (ถ้ามี)
4. ผลการประเมินประสิทธิภาพของตลาดภายหลังจากการรวมธุรกิจ
5. ผลการศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยตามหลักการพิจารณาของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
1. ความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
2. ผลกระทบความเสียหายต่อเศรษฐกิจ
3. ผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม
แบบคำขออนุญาตรวมธุรกิจ ตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561
แบบแจ้งการรวมธุรกิจ ตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งผลการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561
ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่แจ้งผลการรวมธุรกิจ ภายใน 7 วันหลังการรวมธุรกิจ ต้องชำระค่าปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 200,000 บาท และปรับอีกในอัตราไม่เกิน 10,000 บาท ต่อวัน ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่
ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ จะมีโทษปรับในอัตราไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าในการรวมธุรกิจ
ติดต่อเรา
สมัครรับข้อมูลข่าวสาร